แคชเมียร์เคยเป็นแว่นแคว้นอิสระ มีมหาราชผู้ปกครองแคว้น เป็นดินแดนกลางหุบเขาหิมาลัย มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขา ดินแดนแห่งนี้จึงหลากหลายด้วยลักษณะภูมิประเทศทั้งเทือกเขา พื้นที่ราบ ทะเลสาบ ทุ่งนา ทุ่งหญ้า ดินแดนแคชเมียร์ได้ผ่านเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางด้านการปกครอง และการยึดครองของภายนอกมาหลายครั้งหลายครา ถึงกระนั้นชาวแคชเมียร์ก็ยังเป็นผู้ที่มีความสุภาพ อ่อนน้อม รักสงบ และมีศิลปวัฒนธรรมที่สืบเนื่องและเบ่งบานจะสามารถพบเห็นในชีวิตประจำวัน และงานฝีมือโดยทั่วไป
แม้ดินแดนแคเมียร์บางส่วนอยู่ในประเทศปากีสถาน และจีน แต่ส่วนที่อยู่ในการปกครองของอินเดียเป็นอาณาเขตที่กว้างขวางที่สุด และมีประชากรชาวแคชเมียร์เป็นจำนวนมากมากกว่าอีก 2 ประเทศ หากจะคำนึงถึงแคชเมียร์ในอินเดียเป็นตัวตั้ง ก็กล่าวได้ว่าเป็นรัฐที่อยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย เป็นดินแดนที่งดงามกลางหุบเขาหิมาลัย ด้วยพื้นที่ราว 222,000 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่สำคัญที่มีปราการทางธรรมชาติใหญ่ โดยเป็นจุดประสานกันระหว่างเทือกเขาฮินดูกูชที่พาดจากปากีสถานมายังประเทศอินเดีย และเทือกเขาหิมาลัยที่ทอดตัวยาวจากเมียนมาร์ ผ่านภูฏาน เนปาล อินเดีย จีน และปากีสถาน โดยทั้งสองเทือกเขานี้มีเทือกเขาอีกหนึ่งลูกคั่นกลางนั่นคือเทือกเขาคาราโครัมที่พาดตัวยาวตลอดแดนแคชเมียร์
เทือกเขาคาราโครัมนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นเขตติดต่อกันของ 3 ชาติ คือ อินเดีย ปากีสถาน และจีน และยังมีจุดสูงสุดที่สามารถมองเห็นแผ่นดินของทั้ง 3 ประเทศได้คือยอดเขาเคาทู การยึดครองพื้นที่บริเวณแถบนี้ได้จึงเป็นความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์การทหารในการป้องกันประเทศ และเป็นแหล่งทรัพยากรที่ล้ำค่าและมีความสำคัญยิ่งต่อชีวิตมนุษย์ อย่างทรัพยากรน้ำ เพราะเทือกเขาโคราโครัมและเทือกเขาหิมาลัย เป็นแหล่งกำเนิดแม่น้ำสายสำคัญของทั้ง 3 ประเทศ และหนี่งในจำนวนนั้น คือ แม่น้ำสินธุ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจปากีสถาน โดยแม่น้ำนี้มีต้นกำเนิดในบริเวณดินแดนครอบครองของจีนไหลย้อนเข้าสู่ดินแดนแคชเมียร์ของอินเดีย ก่อนที่จะไหลผ่านประเทศปากีสถานเป็นแนวยาวเพื่อลงสู่ทะเลอาหรับ
แหล่งท่องเที่ยวแคชเมียร์ในอินเดีย
กุลมาร์ค (Gulmarg)
กุลมาร์ค เป็นพื้นที่บนภูเขาหิมะที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองศรีนาการ์ไปประมาณ 58 กิโลเมตร และเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก บนยอดเขาจะมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดเวลา ในฤดูร้อนจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ จึงได้ชื่อว่า Gulmarg ซึ่งหมายถึงทุ่งดอกไม้นั้นเอง ทั้งมีจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับเล่นสกี เมืองนี้ตั้งอยู่ในเทือกเขา Pir Panjal ในเทือกเขาหิมาลัยตะวันตกและอยู่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Gulmarg
ในอดีตจักรพรรดิโมกุล Jahangir ได้รวบรวมดอกไม้ป่าจาก 21 สายพันธุ์ต่าง ๆ ในสวนของเขาที่ Gulmarg นี้ ในศตวรรษที่ 19 เมื่อครั้งที่อังกฤษเข้าปกครองอินเดีย ข้าราชการอังกฤษใช้ Gulmarg เป็นที่หนีฤดูร้อนในที่ราบทางเหนือของอินเดีย ดังนั้นจึงมีกิจกรรมตามมา มีการล่าสัตว์และการเล่นกอล์ฟเป็นงานอดิเรก และสนามกอล์ฟสามแห่งได้ก่อตั้งขึ้นในกุลมาร์ค รวมทั้งสนามกอล์ฟสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ปัจจุบันยังคงมีเหลือเพียงแห่งเดียวที่ระดับความสูง 2,650 เมตร (8,690 ฟุต) เป็นสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก ในปี ค.ศ. 1927 อังกฤษได้ก่อตั้งสโมสรสกีขึ้นในเมือง Gulmarg และมีการจัดงานสกีประจำปีขึ้นสองครั้งในช่วงคริสต์มาสและอีสเตอร์
หลังจากอินเดียเป็นอิสระจากอังกฤษ (15 สิงหาคม 1947) ดินแดนของแคชเมียร์ส่วนใหญ่ตกอยู่ในการปกครองของอินเดีย รวมทั้ง Gulmarg ด้วยในปี 1948 กองทัพอินเดียได้ก่อตั้งโรงเรียนสอนสกีขึ้น ซึ่งต่อมาได้เป็นการสอนระดับสูงสำหรับความเชี่ยวชาญการสู้รบฤดูหนาวในพื้นที่หิมะปกคลุมของกองทัพ
ในปี 1968 สถาบันสกีและการปีนเขาได้ก่อตั้งขึ้นใน Gulmarg เพื่อฝึกอบรมผู้สอนสกี นักลงทุนชาวอินเดียได้วางแผนลงทุน 420,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อเปลี่ยน Gulmarg ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางการเล่นสกีระดับโลก และ Gulmarg ได้กลายเป็นศูนย์กลางสำหรับนักเล่นสกีจากประเทศในเอเชีย ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 สกีเฮลิได้รับการแนะนำใน Gulmarg โดยความร่วมมือกับนักเล่นสกีชาวสวิส Sylvain Saudan จาก Himalaya Heli-Ski Club ของฝรั่งเศส
สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปนั้นสามารถเดินทางไปชมวิวทิวทัศน์ และขึ้นกระเช้ากอนโดลาไปยังลานสกีและจุดชมวิวแบบพาโนรามาบนยอดเขา ได้ทั้งฤดูหนาวและฤดูร้อน ซึ่งจะได้ดื่มด่ำความงดงามของธรรมชาติในมุมที่ต่างออกไป เพราะลานสกีกลุมาร์คก็จะเปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ และป่าสนสีเขียว
สวนโมกุล (Mughal Gardens)
กล่าวกันว่าถ้ามาเที่ยวแคชเมียร์ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ไม่ได้ไปเยี่ยมชมดอกไม้สวยๆ ที่ สวนโมกุล ก็เหมือนมาไม่ถึง นั่นก็เพราะที่นี่คือ “สวนสวรรค์แห่งดอกไม้” ที่จะสวยงามสุดๆ เมื่อย่างเข้าเดือนเมษายน ผสมผสานกับความสวยงามของน้ำพุ สระน้ำ ลำธาร ที่รายล้อมอยู่ทั่วสวน รวมถึงจะได้เพลิดเพลินกับอาคารสถาปัตยกรรมแบบโมกุล
ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 มีการก่อตั้งรัฐสุลต่านชาห์มีรีในภูมิภาค สมาชิกชั้นนำบางคนของราชวงศ์ใหม่เป็นผู้อพยพจากเปอร์เซียหรือพื้นที่ที่มีอิทธิพลต่อเปอร์เซีย ดังนั้นควบคู่ไปกับภาษา การแต่งกาย ขนบธรรมเนียม ศิลปะและงานฝีมือหลายประเภทที่เชื่อมโยงกับเปอร์เซียก็เจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคนี้เช่นกัน หนึ่งในนั้นคือศิลปะการทำสวน สวนมีรูปแบบคล้าย ๆ กันของสวนเปอร์เซียพาราไดซ์
การออกแบบให้มีเฉลียงทางเดินรอบ ๆ ลำน้ำกลาง เรียงรายไปด้วยน้ำพุ ปลูกด้วยดอกไม้และต้นไม้นานาพันธุ์ที่เติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์ภายในหุบเขา จักรพรรดิอัคบาร์เสด็จเยือนแคชเมียร์ 3 ครั้งติดต่อกัน และความรักของพระองค์ที่มีต่อสถานที่แห่งนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และต่อจากนี้ไปแคชเมียร์ก็กลายเป็นที่พักตากอากาศฤดูร้อนของจักรพรรดิองค์ต่อ ๆ มา ได้แก่ อัคบาร์ จาหังกีร์ ชาห์จาฮัน และออเร็งเซบ สำหรับจักรพรรดิ์จาหังกีร์ แคชเมียร์ดูเหมือนสวรรค์ เป็นเวลาเกือบครึ่งศตวรรษที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่นี้เดินทางมาจากกรุงเดลีและอัคราอันไกลโพ้น สู่ฤดูร้อนที่เย็นสบายในหุบเขาแคชเมียร์ เข้ามาพร้อมกับดอกไลแลคและดอกไอริสป่าในฤดูใบไม้ผลิ และเดินทางกลับไปยังที่ราบของอินเดียเมื่อดอกหญ้าฝรั่นเบ่งบานในฤดูใบไม้ร่วง มรดกนิรันดร์ที่พวกเขาทิ้งไว้เบื้องหลัง รวมถึงสวน ศิลปะ และงานฝีมือ
สวนโมกุลในแคชเมียร์มีหลายแห่ง ที่นิยมไปชมกัน ได้แก่ ชาลิมาร์ บัก, จัสมาร์ชาฮี และ Nishat
พาฮาลแกม (Pahalgam)
หุบเขาที่เป็นโลเคชั่นยอดฮิตของภาพยนตร์หลายเรื่อง เดิมเป็นหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ โดยตั้งอยู่กลางหุบเขาที่สลับซับซ้อน รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสวยงาม อย่างลำธาร ป่าสน ทุ่งหญ้ากว้าง และมีฉากหลังเป็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวสวยงามราวกับภาพวาด นอกจากเพลิดเพลินกับทิวทัศน์แล้วยังได้สูดกลิ่นธรรมชาติอย่างเต็มปอด
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและสถานีเขา ทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่มและน้ำทะเลใสสะอาดดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายพันคนจากทั่วทุกมุมโลกในแต่ละปี อยู่บนระดับความสูง 7,200 ฟุต (2,200 ม.) จากน้ำทะเล
โซนามาร์ค (Sonamarg)
โซนามาร์ค เป็นหุบเขาที่อยู่ในอ้อมกอดของหิมาลัย ตั้งอยู่บนเส้นทางระหว่างศรีนาคากับเลห์ มีฉายาว่า ดินแดนทุ่งหญ้าแห่งทองคำ เพราะงดงามด้วยวิวทิวทัศน์สุดอลังการของทุ่งหญ้ากว้าง ที่มีวิวเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนเราก็จะเห็นภูเขาลูกใหญ่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวตลอดปี และมีธารน้ำแข็งปกคลุมอยู่ตามไหล่เขา ให้เราได้ชื่นชมความสวยงามได้ในทุกๆ ฤดู
ทะเลสาบดาล (Dal Lake)
ทะเลสาบดาล เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในแคชเมียร์ บริเวณรอบๆ ทะเลสาบเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านในละแวก ตอนเช้ามืดของทุกวันบริเวณชุมชนทะเลสาบดาลจะกลายเป็นตลาดน้ำย่อมๆ ที่ชาวบ้านจะเอาผัก ผลไม้ ดอกไม้ ที่ปลูกไว้มาพายเรือขาย ซึ่งที่นี่ก็สามารถเที่ยวได้ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูร้อนจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการล่องเรือชิคารา ชมวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบ ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกที่บอกเลยว่าไม่ควรพลาด