เจราช (Jerash) อดีตหัวเมืองเอกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน ถือกำเนิดขึ้นราว 300 ปีก่อนคริสตกาล เป็นเส้นทางการค้าเครื่องหอมและเครื่องเทศจากคาบสมุทรอาหรับไปยังซีเรียและภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูเอามากๆ ทว่ากลับเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในปี ค.ศ. 749 ตัวเมืองส่วนใหญ่ถูกทำลาย ซ้ำยังประสบกับความเสียหายต่อเนื่องจากแผ่นดินไหวที่เกิดตามมาและต้องผ่านสภาวะสงครามอีกหลายครั้ง สุดท้ายเจราชก็กลายเป็นซากปรักหักพังฝังอยู่ในผืนทรายหลายศตวรรษ
เมืองโรมันโบราณ เจราช หรือ เมืองพันเสา หรือ ปอมเปอีแห่งตะวันออก ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองหลวงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เป็นอดีต 1 ใน 10 หัวเมืองเอกของอาณาจักรโรมัน สันนิษฐานว่าถูกสร้าง ราว 200 – 100 ปีก่อนคริสตกาล
หลังการฟื้นฟูอย่างเกือบต่อเนื่องตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 เป็นต้นมา วันนี้เราจึงได้เห็นเมืองโบราณขนาด 800,000 ตารางเมตร บนหุบเขาสูงร่วม 300 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล พร้อมหลักฐานความเจริญทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่จำต้องใช้จินตนาการเข้าช่วยเพื่อเพิ่มรสชาติในยามเยี่ยมชม การเดินเข้าสู่ ถนนคาร์โด หรือ ถนนโคลอนเนด ถนนสายหลักอันเก่าแก่แห่งเมืองนี้ ซึ่งบนถนนยังคงถูกจารึกไว้ด้วยร่องรอยของรถม้า นอกจากนี้ยังมีน้ำพุใจกลางเมือง (NYMPHAEUM) ซึ่งสร้างใน ปี ค.ศ. 191 เพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเมืองแห่งนี้
ยังคงได้พบเห็นร่องรอยอดีตอีกมากมาย เช่น ซุ้มประตูเฮเดรียน (Hadrian’s Arch) ซึ่งสร้างต้อนรับจักรพรรดิโรมันเฮเดรียน ผู้ทรงโปรดเมืองเจราชนักหนา เมื่อครั้งพระองค์เสด็จมาเยือนตอนปี 129, โอวัลพลาซ่า (Oval Plaza) ลานชุมนุมพบปะสังสรรค์ของชาวเมืองจากศตวรรษที่ 1 รายล้อมด้วยเสาทรงโรมันแบบไอโอนิค (Ionic) 160 ต้น, ถนนคาร์โด (Cardo) หรือถนนโคลอนเนด (Colonnaded Street) ถนนสายหลักที่ครั้งหนึ่งเคยเรียงรายไปด้วยอาคารสำคัญ ร้านค้าและที่พักอาศัย ฝาท่อและระบบระบายน้ำอันซับซ้อนใต้ลานหินมีริ้วรอยแนวล้อรถม้าฝากไว้
เสาคอรินเธียน (Corinthian) ขนาบสองข้างทางท้าแรงลม, น้ำพุนิมฟาเอียม (Nymphaeum) น้ำพุสาธารณะภายใต้หลังคาครึ่งโดม ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยหินอ่อนและหัวสิงโตพ่นน้ำทั้งเจ็ด, วิหารอาร์ทิมิส (Temple of Artemis) สถานที่ทำพิธีบวงสรวงและบูชายัญต่ออาร์ทิมิส เทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ เทพเจ้าประจำเมืองเจราช
อนุสรณ์สถานส่วนใหญ่สร้างขึ้นโดยเงินบริจาคของประชาชนผู้ร่ำรวย มีโบสถ์กว่า 13 หลังถูกสร้างขึ้นเรื่อยมา หลายแห่งประดับประดาพื้นด้วยกระเบื้องโมเสคอันเยี่ยมยอดด้วยลวดลายและเรื่องราว หนึ่งในนั้นคือเรื่องโนอาห์ ผู้รับบัญชาจากพระเจ้าให้ต่อเรือขึ้น 1 ลำ ก่อนเกิดน้ำท่วมโลก ถึงกาลเวลาได้พรากความงดงามอลังการไป แต่ร่องรอยความยิ่งใหญ่ในอดีตนั้นยังคงอยู่และได้รับการดูแลอย่างดี สมกับเป็นนครแห่งอาณาจักรโรมันนอกพรมแดนอิตาลีที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในโลก