ดินแดนหิมะ ดินแดนชวนฝันของนักเดินทางทุกคน ต้องมีสักครั้งในชีวิตที่ได้ไปสัมผัสและโอบกอดก้อนน้ำแข็งละเอียดสีขาว งดงาม บางเบา ราวกับปุยนุ่น หิมะในแต่ละสถานที่ย่อมมีบรรยากาศแวดล้อมที่แตกต่างกัน บางสถานที่ก็ชวนฝัน บางสถานที่ก็โรแมนติก บางสถานที่ก็เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ และบางแห่งก็งดงามดั่งเทพนิยาย ช่วงหน้าหนาวนี้ไปฟินกันที่ได้ดี ตามอ่านได้เลยค่ะ
แลปแลนด์-ฟินแลนด์ ท่องแดนหิมะเทพนิยาย
แลปแลนด์ ดินแดนดั้งเดิมย้อนอารยธรรมยาวนานถึง 5,000 ปี อยู่ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน รวมถึงบางส่วนของประเทศรัสเซีย ตั้งอยู่เหนือเส้นขั้วโลกเหนือทำให้อากาศหนาวเหน็บแทบตลอดทั้งปี แลปแลนด์ ที่ประเทศฟินด์แลนด์เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะเปรียบเสมือนเมืองแห่งเทพนิยาย เมืองแห่งบ้านเกิดซานตาครอส และได้ใกล้ชิดกับกวางเรนเดียร์ ที่ที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพลน แนะนำให้ไปเที่ยวในช่วงหน้าหนาวประมาณเดือนธันวาคมไปจนถึงกลางเดือนมกราคม จะพบกับสีสันซานต้า และได้ล่าแสงเหนือ กิจกรรมยอดฮิตและสถานที่ต้องมนต์ได้แก่ เที่ยวหมู่บ้านซานตาครอส (Santa Clause Village) เมืองโรวาเนียมิ Rovaniemi จะพบกับดินแดนแห่งเทพนิยายสีขาวที่มีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 4 ถึง -8 องศา และหิมะโปรยปรายปกคลุมทั้งเมือง ต้องไม่พลาดการนั่งรถเลื่อนเทียมสุนัขฮัสกี้ และสนุกกับกวางเรนเดียร์ และปิดท้ายด้วยกิจกรรมตามล่าแสงเหนือ อีกหมูบ้านหนึ่งที่ฟินไม่แพ้กันคอหมู่บ้านอิกลูแคสสลอตทาเน่น (Glass Igloos) หมู่บ้านเรือนกระจกที่มีห้องอบอุ่น นอนมองท้องฟ้า นอนนับดาว และตามล่าแสงเหนือในเวลาเดียวกันได้เลย
แลปแลนด์-ฟินแลนด์
ข้อควรรู้
โซนเวลา ประเทศฟินแลนด์ใช้เขตเวลามาตรฐานแบบ +1 ชั่วโมง และมีการปรับเวลาไปตามฤดูกาลแบบ +1 ชั่วโมง แตกต่างจากประเทศไทย ในระหว่างปลายเดือนมีนาคม ถึงปลายเดือนตุลาคม เวลาจะเดินช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง และเดินช้า 5 ชั่วโมงในเดือนที่ไม่มีการปรับเวลา
ค่าเงิน แต่เดิมฟินแลนด์ ใช้เงินสกุลมาร์กฟินแลนด์ หรือ Markka แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้เป็นเงินยูโร
ระบบไฟฟ้า ในประเทศฟินแลนด์ มีระบบการใช้ไฟฟ้าเป็นแบบ 230 โวลต์ หากนักท่องเที่ยวที่จะนำเครื่องใช้ไฟฟ้าติดตัวไปด้วย จะต้องเตรียมเครื่องแปลงไฟฟ้าหรือ แอดปเตอร์ ไป
โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต รหัสโทรศัพท์คือ +358 โทรกลับเมืองไทยได้โดยการใช้บัตรโทรศัพท์ หรือใช้โทรศัพท์ของที่พักในฟินแลนด์ และสามารถใช้ไวไฟฟรีตามโรงแรม ที่พัก หรือร้านกาแฟทั่วไป รวมถึงการเลือกซื้อแพคเก็จจากซิมการ์ด ได้ในราคาไม่แพง
ของฝาก
ชอคโกแลตยี่ห้อ Fazer, พวงกุญแจ และแก้วที่มีลายธงชาติ รวมถึงตุ๊กตา กวางเรนเดียร์ มูส หรือ ฮัสกี้ ที่ เครื่องสำอาง Lumine ที่ติดตู้เย็นแม่เหล็กตุ๊กตาในเครื่องแต่งกายชุด Sami ชุดประจำแลปแลนด์
อาหารขึ้นชื่อ เนื้อปลา เนื้อสัตว์ เบอร์รี หรือผักต่างๆ และเมนูเรนเดียร์ผัด
Where to Stay
แลปแลนด์-ฟินแลนด์
หลากอารมณ์หนาว ที่ฮอกไกโด-ญี่ปุ่น
ฮอกไกโด หรือเอโซะ เกาะใหญ่อันดับสองในประเทศญี่ปุ่น รองจากเกาะฮนชู ที่นี่เป็นศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยว และเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเขต ได้แก่ ซัปโปโระ โนโบริเบทสึ และนิเซโกะ 3 เมืองนี้ถือเมืองยอดนิยมแห่งการท่องเที่ยวที่ทั้งความเหมือนที่เป็นเมืองแห่งหิมะ และมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันในกิจกรรมต่างๆ
ฮอกไกโด-ญี่ปุ่น
รู้ก่อนไป
เดินทางในฮอกไกโด ควรมี Hokkaido Rail Pass ใช้ขึ้นรถไฟ JR และรถบัส JR ได้เกือบทุกเมือง
เที่ยวฮอกไกโดช่วงฤดูหนาว ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางไว้ด้วย เพราะจะต้องมีการกวาดหิมะ หรือปรับสภาพผิวถนน
เที่ยวในซัปโปโรช่วงฤดูหนาว ควรใช้รถไฟใต้ดินจะสะดวกที่สุด เพราะแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ
เมนูอร่อย มีเมนู อาหารขึ้นชื่อ ฮอกไกโด ที่ห้ามพลาดคือ อาหารทะเลต่างๆ โดยเฉพาะปู, ราเม็ง, เนื้อเจงกิสข่าน กินคู่กับเบียร์, ผลิตภัณฑ์จากฟาร์ม เช่น ผลไม้ นม ชีส
ฮอกไกโด-ญี่ปุ่น
ซัปโปโร – เที่ยวงานเทศกาลหิมะและน้ำแข็งแกะสลัก
ผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลมาเมืองแห่งเทศกาลที่จัดขึ้นในหหน้าหนาวหรือประมาณเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี งานเทศกาลฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่ และน่าสนุกที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างหลงใหล นั่นคือเทศกาลหิมะและน้ำแข็งแกะสลัก Sapporo Snow Festival
โนโบริเบทสึ – ออนเซ็น อุ่นกาย อุ่นใจ
ภาพน่ารักที่ผู้คนเคยเห็นในโลกออนไลน์นั่นคือภาพลิงออนเซ็น ก็มีที่เมืองนี้แหล่ะ ชื่อบ่อจิโงคุดานิ แม้ว่าที่นี่จะเปิดตลอดทั้งปี แต่ภาพลิงอาบน้ำและมีหิมะปกคลุมมีให้เห็นตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมีนาคม และเวลาที่เหมาะสำหรับการไปเยือนมากที่สุดคือ เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยเพราะมีเส้นทางตามหุบเขาประมาณ 20-30 นาที หลังจากเที่ยวชมหิมะจนเมื่อยแนะนำว่าให้ไปแช่ออนเซ็นในย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ น้ำแร่ชั้นดีที่มีน้ำร้อนที่แตกต่างกันถึง 11 ชนิด ให้เลือกใช้บริการกัน
สกีหนาวนี้ ที่นิเซโกะ
เมืองที่โดดเด่นด้านสกีของเกาะฮอกไกคือนิเซโกะ เหมาะกับทุกคนในครอบครัว ได้ทั้งออกกำลังกาย ได้ทั้งเล่นหิมะ ไดทั้งชมวิวทิวทัศน์ฟูจิแห่งฮอกไกโด ได้ทั้งความสนุกสนานในครอบครัว เพราะที่นี่ด้วยสกีรีสอร์ท ที่มีทั้งระดับเริ่มต้นและระดับโปรให้เลือกเล่นกันได้อย่างเต็มอิ่มและปลอดภัย
แคชเมียร์-อินเดีย หิมาลัย หมู่บ้านยิปซี และลานหิมะ
แคชเมียร์รัฐทางตอนเหนือสุดของประเทศอินเดีย ดินแดนกลางเทือกเขาหิมาลัยที่มีงดงามและมีเสน่ห์แตกต่างจากที่ใดๆ ในโลก มีความหลากหลายทางภูมิประเทศเทือกเขา พื้นที่ราบบนภูเขา ภูเขาหิมะ ทะเลสาบ และทุ่งดอกหญ้า ธรรมชาติที่แตกต่างต่างสร้างทิวทัศน์ดั่งภาพเขียนในทุกฤดู ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ช่วงที่มีหิมะตกคือเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน ดินแดนสวรรค์แห่งนี้คุ้มค่ากับการเดินทาง…เพียงแค่ได้มานั่งมองเทือกเขาหิมาลัยก็คุ้มสุดคุ้มแล้ว พลาดไม่ได้ก็ต้องกอนโดลา (กระเช้าลอยฟ้า) ชมหิมะที่เมืองกุลมาร์ค (Gulmargห่างจากเมืองศรีนาการ์ไปประมาณ 58 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียงหนึ่งชั่วโมง ระหว่างทางชมวิวแสงแดดกระทบเกร็ดหิมะสีขาว ทะเลสาบใสราวกระจก มีฉากต้นสน หมู่บ้านยิปซี หมู่บ้านคนท้องถิ่น และทิวเขาหิมาลัย คือฉากหนึ่งแห่งสรวงสวรรค์เลยทีเดียว
แคชเมียร์-อินเดีย
รู้ก่อนเดินทางสู่แคชเมียร์
อากาศ : หนาวมาก 6 เดือน อีก 6 เดือน หนาวนิดหน่อย มี 4 ฤดู เดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดปี อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 6 C
อาหารการกิน : กับข้าวไทยง่าย ๆ พอมีให้รับประทาน เช่น ผีดผัก และข้าวไข่เจียว
ภาษา : ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร
ความปลอดภัย : ก่อนเดินทางควรเช็คข่าว แต่โดยทั่วไปมีความปลอดภัย
ทิป เหมือนเป็นวัฒนธรรมควรทิป ประมาณ 100-200 รูปี
แคชเมียร์-อินเดีย
ซาปา เสน่ห์หนาวบนขุนเขา และชนเผ่าเวียดนาม
“ซาปา” อยู่บนยอดเขาฟานซิปัน ยอดเขาที่สูงที่สุดในอินโดจีน เป็นเมืองเล็ก ๆ ในจังหวัดลาวไก ของเวียดนามห่างจากฮานอยประมาณ 350 กิโลเมตร หากหลับตานึกถึงซาปา หลายคนจะเห็นภาพ ทะเลสาบ น้ำตกและนาขั้นบันได หากใครอยากสัมผัสหิมะแบบใกล้บ้านที่สุดก็ต้องที่ซาปานี่แหล่ะ แต่เพราะหิมะไม่ได้ตกทุกปี แต่ถ้าปีไหนหนาวจัดในช่วงเดือนมกราคม อาจได้พบกับฉากสีขาวโพลนสลับกับวิวธรรมชาติสวยๆ ให้ได้ชื่นอกชื่นใจกัน 3 เส้นทางที่พลาดไม่ได้ในซาปา คือ หมู่บ้าน คือหมู่บ้านกัตกัต (Cat Cat Village) ของชาวม้งดำ สูงกว่าน้ำทะเล 1,650 เมตร ที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี งดงามด้วยบ้านเรือนพื้นถิ่นตกแต่งด้วยไม้ และนาขั้นบันไดที่สลับซับซ้อนและสวยงามเป็นเอกลักษณ์ อีกหมู่บ้านคือ ต่าฟาน เป็นหมู่บ้านของชาวเขาหลายเผ่ามาอยู่รวมกัน งดงามด้วยการแต่งของแต่ละเผ่า และวิถีชีวิตของชาวเขา สุดท้ายต้องไปที่ตรามตอนพาส จุดชมวิวสูงสุดในบริเวณซาปา และเป็นจุดสูงสุดในเวียดนาม สูงจากระดับน้ำทะเล 1,900 เมตร ยิ่งสูงยิ่งสวยด้วยทิวเขาสลับซับซ้อนที่ธรรมชาติได้แต่งแต้มเอาไว้…ทำให้ต้องหลงเสน่ห์ ซาปา ในหน้าหนาวเสียจริงๆ
ซาปา เวียดนาม
การเดินทางจากฮานอยสู่ซาปา
เส้นทางที่ 1 จากฮานอยไปซาปา เดินทางโดยรถไฟมาที่เมืองลาวกาย เมื่อถึงเมืองลาวไค ก็ต่อรถตู้ที่ให้บริการอยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟไปเมืองซาปา ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทาง 38 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 โดยรถยนต์จากฮานอยไปซาปาซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง
ซาปา เวียดนาม