ซิดนีย์ คือเมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ แต่คนส่วนใหญ่รู้จักมากกว่าเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลียเสียอีก ซิดนีย์เป็นจุดหมายท่องเที่ยวชั้นนำ ที่รวมความสนุกไว้ครบครัน จะดีแค่ไหนถ้าในวันที่อากาศเป็นใจ คุณได้พาตัวเองไปหลงอยู่ในซิดนีย์ เมืองที่โอบกอดคุณด้วยท้องฟ้าสดใส น้ำทะเลสีคราม ในช่วงฤดูร้อนอุณหภูมิประมาณ18-25 องศาเซลเซียส ผู้คนจะพากันออกมารับแดด กินลม ชมวิว การสวมรองเท้าสบายๆ ที่เหมาะกับการเดินเล่นคือสิ่งจำเป็นสำหรับทริปนี้
ซิดนีย์คือเมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ แต่คนส่วนใหญ่รู้จักมากกว่าเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลียเสียอีก ซิดนีย์เป็นจุดหมายท่องเที่ยวชั้นนำ ที่รวมความสนุกไว้ครบครัน จะดีแค่ไหนถ้าในวันที่อากาศเป็นใจ คุณได้พาตัวเองไปหลงอยู่ในซิดนีย์ เมืองที่โอบกอดคุณด้วยท้องฟ้าสดใส น้ำทะเลสีคราม ในช่วงฤดูร้อนอุณหภูมิประมาณ18-25 องศาเซลเซียส ผู้คนจะพากันออกมารับแดด กินลม ชมวิว การสวมรองเท้าสบายๆ ที่เหมาะกับการเดินเล่นคือสิ่งจำเป็นสำหรับทริปนี้
เมื่อถึงสนามบินนานาชาติคิงส์ฟอร์ดสมิธแล้ว อย่าลืมรับบัตร Opal Card ไว้เลย คุณสามารถใช้เดินทางด้วยขนส่งมวลชนสาธารณะได้ทุกระบบ ตั้งแต่รถไฟ รถเมล์ ไปถึงเรือเฟอร์รี่ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบัตร Opal Card ได้ที่สถานีรถไฟสนามบิน สถานีรถไฟใหญ่ๆ รวมถึงร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และที่ทำการไปรษณีย์บางแห่ง การออกบัตรโอพอลนั้นไม่มีค่าธรรมเนียมหรือค่าบัตรแต่มีจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องเติมเข้าไปคือ $10 สำหรับบัตรผู้ใหญ่ และ $5 สำหรับบัตรเด็ก / เยาวชน, กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่ได้รับบำนาญขั้น
หลากหลายอารมณ์
CITY’s Landmarks ท่าเรือเซอร์คูลาร์คีย์คือบริเวณที่นักท่องเที่ยวมักจะพุ่งไปเป็นจุดแรก เพราะที่นี่มีแลนด์มาร์กสำคัญนั่นคือซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์ (Sydney Opera House) และสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ (Sydney Harbour Bridge) นอกจากแลนด์มาร์กสำคัญ 2 จุดนี้แล้ว ยังมีย่านเมืองเก่าที่มีเสน่ห์อย่างเดอะร็อคส์ (The Rocks) และสวนพฤกษศาสตร์รอแยล (Royal Garden) ที่นี่ยังเป็นจุดขึ้นเรือไปเที่ยวชมสถานที่อื่น ๆ อาทิ สวนสัตว์ทารองก้า (Taronga Zoo) สวนสนุกเก่าแก่ลูน่าพาร์ค (Luna Park) และดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ (Darling Harbour)
สะพานโครงสร้างเหล็กที่ทอดเชื่อมระหว่างฝั่งเหนือและฝั่งใต้ของของซิดนีย์ คือสัญลักษณ์ที่งดงามเหนือน่านน้ำที่อ่าวซิดนีย์ สร้างขึ้นในทศวรรษที่ 1930 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในปีที่เศรษฐกิจตกต่ำ โดยใช้เวลาสร้าง 8 ปี เปิดใช้ครั้งแรกในปี ค.ศ.1932 สะพานยาว 1.15 กิโลเมตร สูง 134 เมตร โดย 79% ของเหล็กที่ใช้สร้าง นำเข้ามาจากอังกฤษ
หากต้องการเห็นวิวสะพานนี้ในมุมสูง แนะนำให้ไปที่ Pylon Lookout ซึ่งมีค่าเข้า 15 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ข้างบนคือระเบียงชมวิวที่ทำให้คุณเห็นอ่าวซิดนีย์ได้รอบ และเห็นโรงอุปรากรซิดนีย์ได้เต็มตา อีกมุมคือ Observatory Hill ส่วน 2 มุมจากด้านล่างที่เห็นความโอ่อ่าของสะพาน ใต้สะพานเหล็กทางฝั่งเหนือของซิดนีย์ เดินทางด้วยรถไฟไปลงสถานีรถไฟ Milsons Point และใต้สะพานเหล็กอ่าวซิดนีย์บริเวณเซอร์คูลาร์ คีย์
สถาปัตยกรรมรูปเปลือกหอย
สถาปัตยกรรมรูปแบบใบเรือซ้อนกันเล่นลม หรือรูปเปลือกหอย ซึ่งทั่วโลกรู้จักกันดี ออกแบบโดยสถาปนิกชาวสวีเดนชื่อยอร์น อุตชอน (Jørn Utzon) เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความงามสง่าของอ่าวซิดนีย์ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกยูเนสโกในปี ค.ศ.2007 ภายในประกอบด้วยโรงแสดงคอนเสิร์ตซึ่งมีไปป์ออร์แกนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โรงโอเปร่า โรงละคร โรงภาพยนตร์ ภัตตาคาร และบาร์
สำหรับวิวถ่ายรูปยอดนิยมแนะนำให้เดินไปทางขวา อ้อมอ่าวเล็ก ๆ อ่าวหนึ่ง จะมีสถานที่ชื่อ Mrs.Macquaries Chair ณ จุดนั้น คุณจะถ่ายรูปโอเปร่าเฮ้าส์และสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์อยู่ในภาพเดียวกันได้อย่างสวยงาม
อาคารควีนวิกตอเรีย (QVB) เป็นศูนย์การค้าเก่าแก่ตั้งอยู่บนถนนจอร์จในซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย อาคารหลังนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ออกแบบโดยสถาปนิก George McRae ในสไตล์ฟื้นฟูโรมาเนสก์ และเปิดในปี 1898 สร้างขึ้นเพื่อเป็นตลาดและตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่สมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย QVB มีรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อน รวมถึงหน้าต่างกระจกสี พื้นกระเบื้องโมเสค และโดมตรงกลางอันโอ่อ่า
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของร้านบูติก คาเฟ่ และร้านอาหารหรูมากมาย ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น
เดอะร็อคส์เป็นชื่อเรียกของย่านอุตสาหกรรมเก่าที่ตั้งอยู่บนถนนจอร์จ (George Street) เป็นย่านชุมชนแห่งแรกที่ชาวยุโรปเข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อกว่า 200 ปีที่แล้ว ย่านนี้เต็มไปด้วยอาคารอนุรักษ์ที่นำมาปรับปรุงให้เป็นโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟน่านั่ง แหล่งช้อปปิ้งแบบถนนคนเดินสไตล์ซิดนีย์ และเป็นที่ตั้งของ Overseas Passenger Terminal ท่าขึ้นเรือสำหรับผู้มาเที่ยวด้วยเรือสำราญ
ย่านนี้ยังมี The Rocks Discovery Museum พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่จัดแสดงนิทรรศการและประวัติศาสตร์ของพื้นที่ย่านเดอะร็อคส์ในยุค 1850
Martin Place เป็นห้างสรรพสินค้าทางเท้าและย่านการเงินที่โดดเด่นใจกลางซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยทำหน้าที่เป็นทางสัญจรหลักและพื้นที่สาธารณะในใจกลางเมือง Martin Place ตั้งชื่อตามเซอร์เจมส์ มาร์ติน อดีตนายกรัฐมนตรีของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เรียงรายไปด้วยอาคารเก่าแก่อันเป็นเอกลักษณ์ สำนักงานบริษัท และร้านค้าปลีก นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ธนาคารกลางออสเตรเลีย อาคารธนาคารเครือจักรภพ และอาคารที่ทำการไปรษณีย์กลาง (GPO) อันเก่าแก่ ซึ่งได้รับการดัดแปลงให้เป็นโรงแรมหรู
มาร์ตินเพลสขึ้นชื่อในเรื่องบรรยากาศที่คึกคัก โดยมีคนงาน นักช็อปปิ้ง และนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาในบริเวณนี้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ รวมถึงตลาด งานเทศกาล และการแสดงทางวัฒนธรรม ทำให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางที่มีชีวิตชีวาในย่านศูนย์กลางธุรกิจของซิดนีย์
สวนพฤกษศาสตร์ร่มรื่นใจกลางเมืองที่เราสามารถตรงไปยังซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ คล้ายกับเดินทะลุจากสวนลุมไปเจอสีลม แต่ที่นี่ใหญ่กว่าและอากาศดีกว่าสวนลุมมาก คุณสามารถเห็นวิวสะพานฮาร์เบอร์และโรงอุปรากรซิดนีย์ในขณะที่คุณจ็อกกิ้งอยู่ในสวน ใกล้ๆ กันมีทำเนียบรัฐบาลซิดนีย์ (Government House Sydney) สถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1846 ได้ชื่อว่าเป็นสวนสาธารณะที่สวยที่สุดของซิดนีย์ และเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในออสเตรเลีย
อยู่ไม่ไกลจาก Pitt Street ภายในสวนมีน้ำพุ Archibald Fountain ตรงกลางเป็นรูปปั้นเทพอพอลโล (Apollo) ที่ชี้นิ้วไปยังวิหาร St.Mary ซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์ที่สำคัญของเมืองซิดนีย์
แม้จะเป็นเพียงสวนเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ธรรมดา เพราะที่นี่เป็นเสมือน Hidden Gem ของซิดนีย์ ด้วยการนำอ่างเก็บน้ำแพดดิงตั้นในถนนออกซ์ฟอร์ดซึ่งเคยส่งน้ำไปยังส่วนต่าง ๆ ของเมืองซิดนีย์ในช่วงปี ค.ศ. 1866 ถึง 1899 มาออกแบบใหม่ให้เป็นสวนสาธารณะ ที่ผสานสถาปัตยกรรมของอุโมงส่งน้ำดั้งเดิมกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกัน ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวด Urban Design ในออสเตรเลีย ปี ค.ศ. 2009 และอีกหลายรางวัลในปีต่อ ๆ มา
สวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของซิดนีย์ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก เนื่องจากมีสัตว์แปลก ๆ และหายากกว่า 340 สายพันธุ์ จำนวนกว่า 2,500 ตัว ความคุ้มค่าของการไปเยือนสวนสัตว์แห่งนี้ นอกจากคุณจะได้ดูหมีโคอาลา และจิงโจ้ ซึ่งเป็นสัตว์พื้นเมืองของออสเตรเลียแล้ว การเดินทางขึ้นไปโดยกระเช้าไฟฟ้ายังเป็นเรื่องที่น่าสนุก เพราะคุณจะได้เห็นทัศนียภาพที่งดงามรอบอ่าวซิดนีย์
อย่าไปบอกใครว่าคุณจะไปเที่ยวหาดบอนดิ (ถึงจะสะกดอย่างนั้นก็ตาม) หาดบอนได เป็นหาดชื่อดังระดับโลก และโด่งดังที่สุดในออสเตรเลีย ชายหาดรูปโค้งพระจันทร์เสี้ยวที่มีหาดทรายขาวยาวเลียบมหาสมุทรแปซิฟิกราว 1.22 กิโลเมตร
เป็นสถานที่โปรดปรานของหนุ่มสาว เพราะมีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งอาบแดด วินเซิร์ฟ สเก็ตบอร์ด ซึ่งชวนให้นึกถึงแบรนด์ดังของออสเตรเลีย อย่าง Quicksilver , Roxy ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของชาวออสซี่ ที่รักสายลม หาดทราย แสงแดด ที่นี่มีแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง Bondi Iceburgs ซึ่งเป็นคลับสระว่ายน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งชวนตื่นตาด้วยสระว่ายน้ำริมทะเลที่รับคลื่นที่ซัดมาเต็มๆ
สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1929 เพื่อให้ Lifesaver หรือผู้ช่วยชีวิตนักเซิร์ฟบนหาดบอนได ได้ว่ายน้ำฟิตร่างกายในช่วงฤดูหนาว ที่นี่ยังมี Bondi to CooGee Walk เป็นทางเดินที่พาเราลัดเลาะขอบชายฝั่งไปเรื่อย ๆ จนไปสิ้นสุดที่อ่าว CooGee Beach เป็นเส้นทางที่สวยมาก แค่ได้มาเดินเล่นชิลล์ ๆ สักวันก็คุ้มแล้ว
หากคุณยังชื่นชอบบรรยากาศของสระว่ายน้ำริมทะเลที่เป็นสีเดียวกันกับน้ำทะเล ขอแนะนำหาดบรอนเต้ ที่นี่มี Bronte Rock Pool ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำริมทะเลสีเขียวมรกต ขนาดใหญ่กว่าที่ Bondi Iceburgs และคนน้อยกว่าด้วย
เป็นชายหาดที่เล็กกว่าหาดบอนได ที่มีสวนสาธารณะ 2 แห่งที่เหมาะกับการปิกนิก ที่นี่คนน้อยหน่อยและเป็นจุดเล่นเซิร์ฟขึ้นชื่อเพราะคลื่นลมแรงกว่าที่หาดบอนได
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชายหาดยอดนิยมอีกแห่ง ตั้งอยู่ทางชายฝั่งด้านเหนือของซิดนีย์ ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวเมืองซิดนีย์พอดี เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมยามค่ำคืน ครบครันด้วยภัตตาคาร โรงแรม บาร์ชั้นหนึ่ง
National Park
กินพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 11,400 ตารางกม. ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2000 ที่นี่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเดินป่า สูดออกซิเจนกันให้เต็มปอด มีเส้นทางเดินเทรลชื่อ Wenthworth Fall ที่เปิดมากว่า 100 ปี ไฮไลต์ของเส้นทางสายนี้คือน้ำตก Wentworth ในวันที่ฟ้าปิด หมอกลง คุณอาจจะได้เดินไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้เห็นวิว Blue Mountains National Park เลยก็ได้ แต่ในวันที่ฟ้าเปิดนั้นคนละเรื่องเลย ที่จุดชมวิวชื่อ Fletchers Lookout คือที่ที่คุณจะได้เห็นวิว Blue Mountains ที่สวยที่สุด
Echo Point / Photo by Julia Hammond
ถ้าไม่มีเวลามากพอสำหรับการเดินป่าขอแนะนำ Echo Point บริเวณนี้มีจุดชมวิวภูเขาหินรูปร่างแปลกประหลาดเรียงกัน 3 ลูก ชื่อว่า Three Sister สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3000 เมตร เฉพาะจุดที่แยกกันเป็น 3 แท่งหินก็สูงถึง 900 เมตร ที่นี่เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในยามพระอาทิตย์ตกดินที่ฉาบขุนเขาและเวิ้งหุบเหวให้เป็นสีทองนั้นสวยงามมาก
นี่เป็นเพียงบางส่วนของเมืองที่อวลไอความสุขในทุกอณูอากาส จัดเวลาให้ตัวเองเพื่อไปเยือนซิดนีย์สักครั้ง คุณจะเก็บเกี่ยวความสุขได้ในทุกมุมมอง
How to get There :
มีหลายสายการบินที่บินตรงสู่ซิดนีย์ อาทิ สกู๊ต,เจ็ทสตาร์,ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์,การบินไทย และแควนตัสแอร์เวย์
ใช้เวลาบินประมาณ 11.35 ชั่วโมง
Where to Stay
Sofitel Sydney Darling Harbour นอนชมทัศนียภาพขอบฟ้าในซิดนีย์อย่างเต็มตาผ่านกระจกใส
Veriu Broadway, Sydney, Australia นำโรงงานเก่ามาปรับปรุงเป็นโรงแรมเก๋ ตกแต่งในสไตล์ลอฟต์ผสานความดิบ แบ่งเป็น 64 ห้องพัก เดินถึงสถานีรถไฟ Central Station เพียง 10 นาที
Capella Sydney ตั้งอยู่ในซิดนีย์ ห่างจาก The Royal Botanic Gardens 600 ม.
West Hotel Sydney, Curio Collection by Hilton โรงแรมดีไซน์เก๋ เพียง 5 นาทีจาก Darling Habour
What to do
สำหรับผู้ชื่นชอบศิลปะ ขอแนะนำ
- Art Gallery of New South Wales https://www.artgallery.nsw.gov.au
หนึ่งในสถาบันทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่และมีความสำคัญอีกแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย อยู่ไม่ไกลจาก Botanic Garden
- Museum of Contemporary Art Australia (MOCA) https://www.mca.com.au
พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย เข้าชมฟรี
- White Rabbit Gallery Sydney https://www.dangrove.net/white-rabbit-gallery/
มีทั้งหมด 4 ชั้น 3 ชั้นบน จัดแสดงงานศิลปะหมุนเวียน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนรักศิลปะต้องไม่พลาด
- The Grounds of Alexandria https://thegrounds.com.au
ใครชื่นชอบแนวฟลอร่าต้องมาที่นี่ มีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านดอกไม้ และสวนที่ตกแต่งได้งดงามมาก
ย่านสุดคูล คนที่รักสตรีทอาร์ทห้ามพลาด เป็น Gallery Outdoor ดีๆ นี่เอง มีคาเฟ่ ร้านหนังสือ ร้านสินค้าวินเทจ ของที่ระลึก
Market Places สำหรับคนชอบสำรวจตลาด ที่ซิดนีย์มีตลาดหลายแห่งแนะนำ
- The Rocks Market เปรียบได้กับสีสันและชีพจรของซิดนีย์ทีเดียว
- Paddy’s Heymarket อยู่ใกล้ ๆ กับย่าน Chinatown มีทุกอย่างที่คุณอยากช้อป เหมาะกับคนชอบเดินสำรวจตลาด ถ้าเหงาๆ คิดถึงอาหารไทยก็แวะไปที่ดู๋ดี๋ป้ายแดง ซิดนีย์ ซึ่งอยู่ในละแวกนั้น
- Sydney China Town ขออร่อยและความมีชีวิตชีวาแบบไชน่าทาวน์ตั้งอยู่ที่นี่ ใกล้ๆ กัน มี Sydney Town Hall
- Queen Victoria Building (QVB) ข้างในมีร้านค้าให้ช้อปมากมาย สร้างมาเกือบ 200 ปี ปัจจุบันขึ้นทะเบียนเป็นมรดกล้ำค่าของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เดินชมความงามของสถาปัตยกรรมด้านในจนเมื่อยแล้ว แวะดื่มชาสักแก้วก็ไม่เลว ที่นี่เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1893 และเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1898
- Pitt Street ขาช้อปต้องไม่พลาด ที่มีทั้งแบรนด์เนมที่เป็นร้านสาขาทั่วโลก และแบรนด์เนมสัญชาติออสเตรเลีย มีคนมาโชว์ความสามารถ ร้องเพลง เปิดหมวก ขับกล่อมให้เพลิดเพลินยามเดินเล่น
- Paddington Markets อยู่ไม่ไกลจากสวนแพดดิงตั้น เรเซอร์วัว ที่นี่มีตลาดนัดวันเสาร์ ไม่ใหญ่มาก ขายของอาร์ตน่ารักทั้งกระเป๋า งานแฮนด์เมด
- Sydney Fish Market ตลาดอาหารทะเลและของสดต้องยกให้ที่นี่
Travel Tips
- สถานีรถไฟในซิดนีย์มีหลายสาย และมีหลายชานชาลา อย่างสถานี Central มีประมาณ 25 ชานชาลา แนะนำให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชันชื่อ TripView ไว้ดูสายรถไฟ เพื่อให้การเดินทางของคุณสนุกและง่ายดายยิ่งขึ้น
- อัตราแลกเปลี่ยนเงิน 1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับ 23.72 บาท โดยประมาณ
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบัตร Opal Card (ระบบตั๋วสมาร์ทการ์ดที่ใช้ชำระค่าเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในซิดนีย์ บลูเมาเทนส์ เซ็นทรัลโคสต์ ฮันเตอร์ และอิลลาวาร์รา เพิ่มมูลค่าก่อนเดินทางและแตะขึ้นลงเพื่อชำระค่าโดยสาร) ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.opal.com.au