ตุรกี ค้นพบจินตนาการและความสวยงามในทุกๆ มุมมอง

ตุรกี ไม่ต้องขอวีซ่า ไม่ต้องกักตัว แค่พก Passport ก็เที่ยวได้แล้ว คนไทยจะสามารถอยู่ได้ไม่เกินครั้งละ 30 วัน และอายุ Passport ต้องไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

VACATIONS TURKIYE 8D5N-TK (เวเคชั่น ตุรกี)

ตุรกี 8 วัน 5 คืน สายการบินเตอร์ กิชแอร์ไลน์ TK

ไม่ต้องขอวีซ่า ไม่ต้องกักตัว แค่พก Passport ก็เที่ยวได้แล้ว คนไทยจะสามารถอยู่ได้ไม่เกินครั้งละ 30 วัน และอายุ Passport ต้องไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

รวมเดินทางสัมผัสความยิ่งใหญ่แห่งดินแดน 2 ทวีป

เต็มอิ่มกับประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และยาวนานของอาณาจักรออตโตมัน ชื่นชมความงามของธรรมชาติในรูปแบบ

Bird eye view ณ เมืองคัปปาโดเกีย

****(สงวนสิทธิ์สำหรับกรุ๊ปที่ออกเดินทาง 15 ท่านขึ้นไปเท่านั้น)****

Yพักโรงแรมระดับ 5+4 ดาว ตลอดการเดินทาง

Yบินตรงกับสายการบินประจำชาติ Turkish Airlines

Yพักโรงแรมสไตล์ถ้ำ

วันโปรแกรมการเดินทางเช้ากลางวันค่ำโรงแรมที่พัก หรือเทียบเท่า
1กรุงเทพฯ 
2เมืองอิสตันบูล-สุเหร่าสีน้ำเงิน-ฮิปโปโดรม-สุเหร่าเซนต์โซเฟีย- พระราชวัง เบราเบยี-เมืองหลวงกรุงอังการ่าüHOTEL2000 @ANKARA
3กรุงอังการ่า – ทะเลสาบเกลือSalt Lake – เมืองคัปปาโดเกีย – ชมโรงงานจิวเวอร์รี่และโรงงานเซรามิค ชมโรงงานทอพรม – หุบเขาเกอเรเม่  üüüALP CAVE DESIGN @CAPPADOCIA
4บอลลูน โปรแกรมเสริมพิเศษ ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ (OPTIONAL TOUR) – เมืองปามุคคาเล – CARAVANSARAI – แวะชิมโยเกิร์ตฝิ่น      – ชมโรงงานคอตตอนüüüLYCUS RIVER THERMAL @PAMUKKALE
5ปราสาทปุยฝ้ายและเมืองโบราณเฮียราโพลิส- เมืองโบราณเอฟฟิซุส – วิหารเทพีอาร์เทมิสโบราณ-โบสถ์นักบุญเซนต์จอห์น- PIGEON ISLAND WALKING TOUR -ร้านขนม Turkish Delight – คูซาดาซึ KusadasiüüüKASA DEL SOLE @KUSADASI
6ร้านเครื่องหนัง – เมืองอิสตันบูล – ตลาดสไปซ์มาร์เก็ต – BOSPHORUS CRUISE + DINNER SHOWüüüHITIT HOTEL @ISTANBUL
7เมืองอิสตันบลู –(แวะถ่ายรูป)กาลาตา ทาวเวอร์- ย่านBALAT & FENNER – โบสถ์เหล็กบัลกาเรียน-ช้อปปิ้งสุดมันส์ที่TAKSIM SQUAREü
8กรุงเทพฯ
ตารางเส้นทางการบิน
เส้นทางการบินเวลาออกเดินทาง-เวลาถึงปลายทางเที่ยวบินระยะเวลาในการเดินทาง โดยประมาณ
สุวรรณภูมิ(BKK)-อิสตันบูล(IST)22.55 – 05.45+1TK6510 ชั่วโมง 50 นาที
อิสตันบูล(IST)-สุวรรณภูมิ(BKK)20.55 – 10.10+1TK6409 ชั่วโมง 15 นาที
วันที่หนึ่ง                      กรุงเทพฯ-/-/D

19.30 น.          —คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น4 สายการบินTURKISH AIRLINES เคาน์เตอร์ U ประตู 9 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน


 22.55 น.         เหินฟ้าสู่กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK65 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10.50 ชั่วโมง (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่สอง                        เมืองอิสตันบูล-สุเหร่าสีน้ำเงิน-ฮิปโปโดรม-สุเหร่าเซนต์โซเฟีย-เมืองหลวงกรุงอังการ่า-/-/D

05.45 น.          เดินทางถึง สนามบินนานาชาติ อตาเติร์กกรุงอิสตันบูล หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

นำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL)

จากนั้นนำทุกท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือ SULTAN AHMET MOSQUE ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 7 ปี ระหว่าง ค.ศ.1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ Sultan Ahmed นั้นเอง

** ข้อกำหนด โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่า และ จำเป็นต้องต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม**สุภาพสตรี : ควรสวมกางเกงขายาวคลุมข้อเท้า เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูป และเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ สุภาพบุรุษ : ควรสวมกางเกงขายาว และ เสื้อแขนยาว ไม่รัดรูป

SULTAN AHMET MOSQUE /Photo by Raimond Klavins

จากนั้นนำทุกท่านสู่ จัตุรัสสุลต่านอะห์เมตหรือ ฮิปโปโดรม (HIPPODROME) สนามแข่งม้าของชาวโรมัน จุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวเมืองเก่า สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ เซปติมิอุสเซเวรุสเพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่างๆของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนตินฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้นตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมัน

สถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธีแต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมตซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์3 ต้น คือเสาที่สร้างในอียิปต์เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูลเสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือเสาคอนสแตนตินที่ 7

HIPPODROME
Hagia Sophia/ Photo by Jeison Higuita

จากนั้นนำทุกท่านชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (SAINT SOPHIA)หรือ โบสถ์ฮาเจีย โซเฟีย1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์พระเจ้าจักรพรรดิคอนสแตนติน เป็นผู้สร้างเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์แต่ถูกผู้ก่อการร้ายบุกทำลายเผาเสียวอดวายหลายครั้งเพราะเกิดการขัดแย้งระหว่างพวกที่นับถือศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลามจวบจนถึงรัชสมัยของ 

พระเจ้าจัสตินเนียนมีอำนาจเหนือตุรกีจึงได้สร้าง โบสถ์เซนต์โซเฟีย ขึ้นใหม่ ใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1996 (ค.ศ 1435) พระองค์ต้องการให้เป็นสิ่งสวยงามที่สุดได้พยายามหา สิ่งของมีค่าต่างๆมาประดับไว้มากมาย สร้างเสร็จได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่าง มโหฬารต่อมาเกิดแผ่นดินไหวอย่างใหญ่ทำให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่อมจนเรียบร้อยในสภาพเดิมเมื่อสิ้นสมัยของจักรพรรดิจัสตินเนียน ถึงสมัย พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 2 มีอำนาจเหนือตุรกี และเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามจึงได้ดัดแปลงโบสถ์หลังนี้ให้เป็นสุเหร่าของชาวอิสลาม

Hagia Sophia

กลางวัน อิสระอาหารกลางวัน

จากนั้นนำท่านชม พระราชวังเบลเลอเบยี (BEYLERBEYI PALACE) เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเล ของช่องแคบบอสฟอรัสในฝั่งเอเชีย ใกล้กับสะพานข้ามช่องแคบฯ แห่งแรก ถือเป็นพระราชวังฤดูร้อนของจักรวรรดิออตโตมัน ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1861 ถึง ค.ศ. 1865 และยังเป็นสถานที่ที่ถูกใช้เป็นที่กักตัวของ สุลต่านอับดุลฮามิดที่ 2 ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่พระองค์จะเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1918

พระราชวังเบลเลอเบยี (BEYLERBEYI PALACE)
เมืองอังการ่า (ANKARA)/ Photo by inlovew photography

ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองอังการ่า (ANKARA) เมืองหลวงของประเทศตุรกี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง   เมืองอังการ่า หรือที่มีชื่อตามประวัติศาสตร์ว่า ANGORA เป็นเมืองหลวงของตุรกีในปัจจุบัน และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากนครอิสตันบูล กรุงอังการาตั้งอยู่ในเขต Central Anatolia ใจกลางประเทศตุรกีบนที่ราบสูงอนาโตเลีย โดยอยู่ห่างจากนครอิสตันบูลทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เป็นระยะทางประมาณ 450 กิโลเมตร กรุงอังการาเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง ส่วนราชการต่างๆ และสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ในตุรกี

ความสำคัญของกรุงอังการา 

กรุงอังการามีประชากรจำนวน 4,965,542 คน ทำให้กรุงอังการาเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของตุรกี และอันดับ 2 ในกลุ่มเมืองหลวงยุโรป ในขณะที่นครอิสตันบูลเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาคมาร์มารานั้น กรุงอังการาก็เป็นศูนย์กลางทางการค้าและเครือข่ายคมนาคมในภูมิภาคอนาโตเลีย โดยเป็นจุดตัดของการคมนาคมทางบก (รถยนต์และรถไฟ) ที่เชื่อมโยงภูมิภาคต่างๆ ของตุรกีเข้าด้วยกัน และเป็นศูนย์กลางตลาดสินค้าเกษตรที่ขนส่งมาจากภาคต่างๆ ทั่วตุรกีด้วย

ค่ำ                บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ã นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL 2000 @ANKARA ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่สาม                        กรุงอังการ่า -ทะเลสาบเกลือ (Salt Lake) – เมืองคัปปาโดเกีย – ชมโรงงานจิวเวอร์รี่และโรงงานเซรามิค ชมโรงงานทอพรม – หุบเขาเกอเรเม่B/L/D

เช้า                บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

A hot air balloon in Cappadocia/ Photo by Soyoung Han

จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่เมืองคัปปาโดเกีย ดินแดนที่มีภูมิประเทศราวหลุดไปในเทพนิยาย ซึ่งเกิดจากชั้นหินภูเขาไฟที่ปะทุและทับถมทั้งภูมิภาคตั้งแต่สมัยโบราณ ใช้เวลา 320 Km หรือประมาณ 3.20 ชั่วโมง ระหว่างเส้นทาง แวะชมและถ่ายภาพ ทะเลสาบเกลือ (SALT LAKE) ทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศตุรกี โดยในช่วงฤดูร้อน (เดือน กรกฎาคม-กันยายน) น้ำในทะเลสาบจะแห้งจนปรากฏให้เห็นชั้นเกลือที่มีความหนามากถึง 30 ซม.

จากนั้นนำท่านแวะ ชมโรงงานจิวเวอร์รี่ โรงงานพรม และโรงงานเซรามิค  อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึก

Cappadocia Cave Suites, Turkey/ Photo by Marvin Meyer

กลางวัน           บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

พาท่านชมทัศนียภาพ ภูเขาหินต่างๆ รอบๆบริเวณ หุบเขาเกอเรเม่ ตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโรมัน และเป็นที่ที่ชาวคริสเตียนยุคแรกใช้ในการเป็นที่หลบหนีภัยจากการไล่ทำร้ายและสังหารก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเป็นศาสนาที่ได้รับการประกาศว่าเป็นศาสนาของจักรวรรดิ ที่จะเห็นได้จากคริสต์ศาสนสถานจำนวนมากมายที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้

หุบเขาเกอเรเม่ Uchisar Valley

หุบเขาเดฟเรนท์ หุบเขาเดฟเรนท์ (Devrent Valley) เป็นที่รู้จักกันในชื่อเรียกว่า หุบเขาแห่งมโนคติ (Imaginary Vally) และ หุบเขาสีชมพู (Pink Valley) ที่มีชื่อว่าหุบเขาแห่งมโนคติก็เนื่องมาจากบรรดาหินรูปทรงแปลกประหลาดซึ่งมีอยู่จำนวนมากมายที่ชวนให้ต้องใช้จินตนาการในการมอง

จากนั้นนำท่านชม หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อาศัย และถ้ามองดี ๆ จะรู้ว่าอุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย

ค่ำ                ä บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรมสไตล์ถ้ำ!! ALP CAVE DESIGN @CAPPADOCIA หรือเทียบเท่า

**หมายเหตุ:กรณีห้องพักโรงแรมถ้ำเต็ม ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเป็นโรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกัน**

วันที่สี่บอลลูน โปรแกรมเสริมพิเศษ ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ (OPTIONAL TOUR) – เมืองปามุคคาเล – CARAVANSARAI – แวะชิมโยเกิร์ตฝิ่น   – ชมโรงงานคอตตอนB/L/D

** สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเจีย จะต้องออกจากโรงแรม 05.30 น. เพื่อชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง **

(ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ประมาณ 250-350USD/ท่าน ราคานี้สมาคมผู้ประกอบการฯเป็นผู้กำหนด)

แนะนำโปรแกรมเสริมพิเศษ ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ (OPTIONAL TOUR)

บอลลูนทัวร์ (BALLOON TOUR) สำหรับท่านที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย โปรแกรมเสริมพิเศษ จำเป็นต้องออกจากโรงแรมประมาณ 04.30 – 05.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับไปขึ้นบอลลูน เพื่อชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยากใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมไปขึ้นบอลลูน ประมาณ 30 – 45 นาที อยู่บนบอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการขึ้นบอลลูน ท่านละประมาณ 250-350 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน

รถจี๊ปทัวร์ (JEEP TOUR) สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมจำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 – 06.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับ เพื่อชมความสวยงามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดินในบริเวณที่รถเล็กสามารถตะลุยไปได้ ใช้เวลาอยู่บนรถจี๊ป ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊ปอยู่ที่ ท่านละ 120 – 150 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ(USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ

รถโบราณ (MUSTANG CLASSIC CAR) สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมจำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 – 06.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับ เพื่อชมความสวยงามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดินในบริเวณที่รถเล็กสามารถเดินทางไปได้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จำกัดโดยสารไม่เกิน 3 ท่าน/คัน ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถมัสแตงโบราณอยู่ที่ ท่านละ 100 – 150 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ

คำแนะนำ

  • เนื่องด้วยข้อกำหนดของเวลา ท่านจำเป็นต้องเลือกซื้อแพ็คเกจทัวร์เสริมอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
  • ท่านที่เมารถ กรุณาทานยาแก้เมารถล่วงหน้าอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก่อนออกเดินทาง และ ควรแจ้งให้หัวหน้าทัวร์ทราบตั้งแต่ก่อนวันเดินทาง (ตั้งแต่อยู่ประเทศไทย เพื่อเตรียมยาแก้เมารถจากประเทศไทยไป)
  • กิจกรรมนี้ ไม่อนุญาตให้ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรง หรือ ตั้งครรภ์ เข้าร่วมโดยเด็ดขาด กรณีเกิดความเสียหายไม่ว่ากรณีใดๆทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับผิดชอบทุกกรณี
  • สำหรับท่านที่ไม่ร่วมในโปรแกรมเสริมพิเศษท่านจำเป็นต้องพักผ่อน รอคณะอยู่ที่โรงแรมที่พัก

จากนั้นเดินทางสู่ ปามุคคาเล่ Pamukkale บ่อน้ำร้อนศักดิ์สิทธิ์แห่งตุรกี ใช้เวลาเดินทาง 8 ชม.(630 กม.)   ระหว่างทางแวะถ่ายรูป CARAVANSARAI ที่พักแรมระหว่างทางของกองคาราวาที่เดินทางเส้นทางสายไหมของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน มีกำแพงล้อมรอบเพื่อป้องกันลมและฝน รวมทั้งพายุรุนแรงและการปล้นสดมภ์

กลางวัน           บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ระหว่างทางแวะให้ท่านได้ลองชิม โยเกิร์ตฝิ่น ขนมหวานที่มีโยเกิร์ตเป็นส่วนประกอบหลัก มีน้ำผึ้งเป็นส่วนประกอบเสริม และมีดอกฝิ่นเป็นตัวเรียกแขก ก็เป็นสิ่งที่ต้องลองสักครั้งเมืองเดินทางมาเที่ยวประเทศตุรกี

(ไม่รวมในค่าบริการ เลือกชิมตามความสนใจของท่าน)

จากนั้นนำท่านเข้า ชมโรงงานคอตตอน สามารถเลือกซื้อของฝากเช่น ผ้าพันคอ ผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า

เป็นต้น เป็นสินค้าที่ผลิตด้วยคอตตอน100%

ค่ำ                บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าสู่ที่พัก LYCUS RIVER HOTEL @PAMUKKALE ระดับ 5 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่ห้าปราสาทปุยฝ้ายและเมืองโบราณเฮียราโพลิส- เมืองโบราณเอฟฟิซุส – ร้านขนม Turkish Delight – PIGEON ISLAND WALKING TOUR – คูซาดาซึ KusadasiB/L/D

เช้า                บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าชมปามุคคาเล่ (Pamukkale) เป็นภาษาตุรกี แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) ปามุกแปลว่าฝ้าย คาเลย์แปลว่าปราสาท เป็นน้ำตกสีขาวโพลน ลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้นส่งประกายสะท้อนกับแสงแดดระยิบระยับ บนหน้าผา โตรกเขา สีขาวบริสุทธิ์ของแร่แคลเซียมที่เกาะตัวอยู่บนเนินเขา ลดหลั่นลงมาดังป้อมปราการเกิดจากน้ำพุร้อนที่มีแร่แคลเซียมคาร์บอเนตผสมอยู่เป็นจำนวนมากในธรรมชาติ

เมื่อน้ำแร่ไหลไปตามพื้นหิน แคลเซียมจะเกาะตัวติดอยู่กับหิน ส่วนคาร์บอนเนตจะแปรสภาพกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์แยกตัวไป นานๆ เข้าแคลเซียมขาวจะเกาะเต็มพื้นหินบนภูเขาจนมองไม่เห็นพื้นหิน พื้นดิน รูปร่างจะเปลี่ยนไปตามรูปร่างของพื้นหินที่เกาะอยู่เป็นรูปทรงต่างๆ แปลกตา แลดูเหมือนกับแอ่งน้ำบนสวรรค์ หรือฉากในดินแดนแห่งเทพนิยาย จนทำให้ปามุกคาเล่และเมืองเฮียราโพลิสได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988

ปามุคคาเล่ (Pamukkale)/ Photo by Daniela Cuevas

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ชม เมืองโบราณเอฟฟิซุส

เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุส ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ นำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH)ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณ ที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดีทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบ เฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและฝีมือประณีต

เมืองโบราณเอฟฟิซุส

จากนั้นนำท่านเดินเที่ยวชม PIGEON ISLAND (เกาะนกพิราบ) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองคูซาดาซึ เกาะแห่งนี้เป็นที่อาศัยของนกอพยพตามฤดูกาล ด้วยเหตุนี้จึงถูกเรียกว่าเกาะนก  หอนาฬิกาและกำแพงของเกาะ Pigeon หรือที่รู้จักในชื่อ Guvercin Ada สร้างขึ้นในสมัยไบแซนไทน์และยังคงมีความสำคัญในสมัยออตโตมัน 

เกาะพีเจียนเป็นจุดสังเกตการโจมตีที่มาจากเกาะใกล้เคียง นอกจากนี้ ปราสาทเกาะนกพิราบยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “ปราสาทโจรสลัด” ในหมู่สาธารณชน เนื่องจากมันถูกใช้เพื่อต่อต้านโจรสลัด  ผู้ว่าราชการท้องถิ่น ต้องการให้เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ถูกเรียกว่า เกาะ Pigeon ในปี 1962 และด้วยเหตุนี้จึงได้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการ

จากนั้นนำท่านซื้อขอฝากตามอัธยาศัย ร้านขนม Turkish Delight ของฝากขึ้นชื่อของประเทศตุรกี

Turkish Delight/ Photo by Kaysha

ค่ำ                บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ã นำท่านเข้าสู่ที่พัก Hitit Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่หกโรงงานเครื่องหนัง – เมืองอิสตันบูล – สไปซ์มาร์เก็ต – BOSPHORUS CRUISE –DINNER WITH SHOWB/L/D

เช้า                บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม โรงงานเครื่องหนัง ผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกที่สำคัญของตุรกีหนังคุณภาพชั้นดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ให้ท่านได้ร่วมสนุกกิจกกรมเดินแฟชั่นโชว์และเลือกชมได้ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังเมืองเพอร์กามอน (Pergamon) ใช้เวลาเดินทาง 2.20 ชั่วโมง (181 กิโลเมตร) เมืองชายฝั่งทะเลเอเจียนของประเทศตุรกี ตั้งอยู่ในจังหวัด อิซเมียร์ ในอดีตกลุ่มชาวกรีก อีโอเลียน(Aeolian) เป็นผู้บุกเบิกในการเข้ามาตั้งรกรากในช่วง 800 ปีก่อนคริสตกาลล

กลางวัน           บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล เดิมชื่อ คอนแสตนติโนเปิล  เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี  ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส  ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ในทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่งบอสฟอรัส) และ ทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย)  

จากนั้นนำท่านสู่ ตลาดสไปซ์มาร์เก็ต (SPICE MARKET)หรือตลาดเครื่องเทศ ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก เครื่องประดับ ชา กาแฟ ผลไม้อบแห้ง ขนมของหวานขึ้นชื่อและถั่วหลากหลายชนิดให้เลือกสรร

ตลาดสไปซ์มาร์เก็ต (SPICE MARKET)/Photo by Metin Calis

ค่ำ                นำทุกท่าน ล่องเรือ DINNER CRUISE BOSPHORUS พร้อมทานอาหารค่ำ

ล่องเรือไปตามช่องแคบบอสฟอรัส ช่องแคบที่เป็นพรมแดนกั้นระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย บรรยากาศริมสองฝั่งแม่น้ำ ที่ภูมิสถาปัตย์มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างกลิ่นอายของยุโรป และกลิ่นอายความเป็นเอเชียระหว่างการล่องเรือจะได้ชมเมืองที่มีชีวิตชีวาด้วยแสงไฟสว่างไสวในยามค่ำคืน พร้อมรับชมการแสดงโชว์อันตระการตา

นำท่านเข้าสู่ที่พัก MAYI HOTEL @ISTANBUL ระดับ 5ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ดหอคอยกาลาตา – โบสถ์เหล็กบัลกาเรียน –  ย่านBALAT & FENNER – ช้อปปิ้งสุดมันส์ที่  TAKSIM SQUAREB/-/

เช้า                บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

                             นำทุกท่านแวะถ่ายรูปกับหอคอยกาลาตา GALATA TOWER เป็นหอคอยหินยุคกลางในเขตกาลาตา และเป็นหนึ่งที่ที่สำคัญที่โดดเด่นที่สุดในเมืองอิสตันบูล ด้วยลักษณะทรงกระบอกสูงของหอคอยที่โดดเด่นเหนือเส้นขอบฟ้า ทำให้เกิดทัศนียภาพอันงดงามของคาบสมุทร และบริเวณโดยรอบ รอบบริเวณหอคอยยังเต็มไปด้วยอาคารและร้านค้าที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่สวยงามและแปลกตา

นำท่านถ่ายรูปหน้าโบสถ์บัลแกเรียเซนต์สตีเฟน  (หรือที่เรียกว่าโบสถ์เหล็กบัลแกเรีย) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการต่อสู้เพื่อเอกราชของคริสตจักรที่เริ่มขึ้นในทศวรรษที่ 1930 และ 1940 เป็นโบสถ์ออร์โธดอกซ์เหล็กแห่งเดียวในโลก มีความสูง 20 เมตร รวมหอระฆัง วิหารออร์โธดอกซ์บัลแกเรียถูกสร้างขึ้นมากกว่า 500 ตารางเมตร เป็นมหาวิหารรูปไม้กางเขนสามช่องทำจากชิ้นส่วนเหล็กหล่อสำเร็จรูป  โบสถ์เหล็กแห่งบัลกาเรีย ซึ่งฉลองครบรอบ120ปี ในปี 2018 ถือเป็นอนุสรณ์สถานมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมบัลกาเรีย ที่ทรงคุณค่าที่สุดในตุรกี

เที่ยง              อิสระอาหารกลางวัน

จากนั้นให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศใหม่ ไม่เหมือนใครกับการชมเมืองอีสตันบูล รูปแบบสไตล์เมืองเก่า นั้นคือ ย่าน FENER & BALAT ชุมชนชาวยิวเก่าแก่ กว่า 100 ปี ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองเก่าของกรุงอีสตันบูล โดยอยู่ฝั่งบริเวณเขตยุโรป ท่านจะได้สัมผัสความคลาสสิคของตึกเก่า ที่ปลูกสร้างตามแนวสันเขาเล่นระดับแบบมีเอกลักษณ์

และที่สำคัญยังสวยงาม ด้วยสีสันสดใส สะดุดตา น่ามอง จนทำให้เกิดเป็นมุมถ่ายรูป ชิคๆ เก๋ๆ มากมายในเขตชุมชนแห่งนี้ และน่าแปลกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากความสงบเงียบ และเป็นมิตรของผู้คนในย่านนี้ ทำให้ท่านแทบไม่เชื่อเลยว่ากำลังเดินเที่ยวอยู่ ณ เมืองอิสตันบูล จนชุมชนนี้ได้ถูกขนานนามจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนว่า ซิงเกวเตเล่ แห่งตุรกี

ต่อจากนั้นนำท่านไปช้อปปิ้งสุดมันส์เต็มอิ่มกับบรรยากาศอันคึกคักของ จตุรัสทักซิมสแควร์ (Taksim Square)

ถนนสายนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองอิสตันบูล มีร้านค้ามากมาย เช่น H&M,ZARA,MANGO,NIKE,ADIDAS etc., ร้านอาหารพื้นเมือง และยังมีแทรมป์โบราณ (Tram) เรียกได้ว่าที่แห่งนี้เป็นจุดนัดพบยอดนิยมของชาวเมืองอิสตันบูล

ได้เวลาอันสมควร นำทุกท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติ อตาเติร์กกรุงอิสตันบูล

20.55 น.          เหิรฟ้าสู่ กรุงเทพมหานครโดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK68 ใช้เวลาเดินทาง

                   ประมาณ 10 ชั่วโมง (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

วันที่แปด         เมืองอิสตันบูล-กรุงเทพฯ                                                                                      

10.10 น.          คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดิภาพและความประทับใจ

อัตราค่าบริการ

กำหนดการเดินทางราคาผู้ใหญ่ (พักห้องละ 2-3 ท่าน)ราคาเด็กเสริมเตียง (พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน)ราคาเด็กไม่เสริมเตียง (พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน)พักเดี่ยวเพิ่ม
02-09 ธ.ค. 66 03-10 ธ.ค. 66 08-15 ธ.ค. 66 09-16 ธ.ค. 6638,988 บาท38,988 บาท37,988 บาท9,000 บาท
16-23 ธ.ค.66 17-24 ธ.ค.6643,988 บาท43,988 บาท42,988 บาท9,000 บาท
22-29 ธ.ค.6654,988 บาท54,988 บาท53,988 บาท9,000 บาท
30 ธ.ค.-06 ม.ค. 6757,988 บาท57,988 บาท56,988 บาท9,000 บาท
ค่าทิปรวมตลอดการเดินทางทั้งหมด ตามธรรมเนียม 80 USD เหรียญดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา (USD) รวมไปถึงเด็กอายุมากกว่า 2 ปี ยกเว้น เด็กอายุไม่ถึง 2 ปี ณ วันเดินทางกลับ ** ตั๋วโดยการสำหรับกรุ๊ปทัวร์ เป็นตั๋วราคาพิเศษ ไม่สามารถสะสมไมล์ได้ ** **ราคานี้ สงวนการเดินทาง จำนวน 15 ท่านขึ้นไป***ราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่นไม่สามารถสะสมไมล์ได้** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน ,รถทัวร์ ,รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

**