อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส งดงามดั่งต้องมนต์

(23075)(PV-EU-LG9D6N-EK) LEGEND EUROPE ITALY SWISS FRANCE 9 DAYS 6 NIGHTS BY EK อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส

วันที่ 1 ออกเดินทาง

วันที่ 2

สัมผัสความยิ่งใหญ่และประวัติศาสตร์ของโรมันฟอรั่ม (Roman Forum), ศูนย์กลางทางการเมืองที่เคยเป็นจุดศูนย์รวมของการปกครอง, ศาสนา, และเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมันในช่วง 2,000 ปีที่ผ่านมา. ท่านจะพบกับร่องรอยของวัฒนธรรมโรมันที่โบราณผ่านซื่อของวัด, พระราชวัง, และพื้นที่การค้า

สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum), เป็นศิลปะกีฬาขนาดใหญ่และมีประวัติศาสตร์ยาวนาน. ท่านสามารถสัมผัสความอลังการของสถานที่ที่เคยเป็นสนามประลองการต่อสู้และการแสดงที่ใหญ่ที่สุดในโรมันโบราณ.

หลังจากนั้น, ท่านจะได้พบกับความสวยงามของน้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain), ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของกรุงโรม. ลานน้ำพุได้รับการออกแบบอย่างลงตัว รู้สึกเหมือนกับการลงไปในโลกของเทพน้ำพุที่สวยงาม.

สุดท้าย, ท่านจะมีโอกาสพักผ่อนที่บันไดสเปน (The Spanish Steps), ที่เป็นจุดนัดพบท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยม สามารถสัมผัสบรรยากาศที่เป็นที่สุดของการผสมผสานระหว่างศิลปะ, ประวัติศาสตร์, และความเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้น

วันที่ 3

เริ่มการเดินทางจากโรมไปยังเมืองปิซ่า (Pisa) ซึ่งมีระยะทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง โดยเมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ แต่มีชื่อเสียงและเป็นจุดหมายท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เนื่องจากมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นที่รู้จักทั่วโลก

หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่ จัตรุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม่ (Piazza dei Miracoli) ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1987 ในที่นี้จะได้พบกับหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี, มหาวิหารดูโอโม่แห่งปิซ่า (Duomo dei Pisa) ที่ยิ่งใหญ่งดงาม, และหอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองปิซ่าและเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง

พร้อมทำการเดินทางต่อไป สู่เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) ที่มีระยะทางเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง เมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี ค.ศ. 1982 ท่านจะได้พบกับมหาวิหารซานตามาเรียเดลฟิโอเร (Santa Maria del Fiore) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป เลือกชมสถาปัตยกรรมที่มีหินอ่อนหลายสีตกแต่งอย่างงดงาม

เยี่ยมชมเมืองฟลอเรนซ์, ห้ามพลาดที่จะชมจัตุรัสซิญญอเรีย (Piazza della Signoria) ที่รอบๆ รายล้อมไปด้วยรูปปั้นอันวิจิตรสวยงาม, สะพานเวคดิโอ (Vecchio) ที่เป็นสะพานเก่าแก่ที่มีร้านขายทองและอัญมณีอยู่ทั้งสองข้าง นอกจากนี้, ท่านยังสามารถเลือกชมสินค้าหรือซื้อของที่ระลึกได้อีกดัวย

วันที่ 4

เริ่มต้นการเดินทางจากเมืองฟลอเรนซ์ไปยังเวนิสเมสเตร้ (Venice Mestre) ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง ถึงเมืองนี้ท่านจะได้สัมผัสความเป็นเอกลักษณ์ของเวนิส ที่นี่คือเมืองแห่งสายน้ำที่มีความสวยงามตรึงใจ ที่น่าสนใจและไม่เหมือนใคร

เปลี่ยนรูปแบบการเดินทางด้วยการล่องเรือเข้าสู่เกาะเวนิส (Venice) ราชินีแห่งทะเลเอเดียตริก นี่คือแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นฝันของคนทั่วโลก

ในเวลาเที่ยงหลังจากการล่องเรือ, ท่านจะได้รับเวลาอิสระในการรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัยของท่าน

ต่อจากนั้น, นำท่านเดินทางเพื่อชมเมืองที่มีเสน่ห์อันโรแมนติกของเวนิส เป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกคู่รักทั่วโลกต่างมองหา สัมผัสประสบการณ์การเดินทางผ่านจุดสำคัญต่างๆของเกาะเวนิส เช่น มหาวิหารเซนต์มาร์ก (St. Mark’s Basilica) ที่ตั้งอยู่บน Piazza San Marco, พระราชวังดอจส์ (Doge’s Palace) ที่สร้างขึ้นในเวเนเซียนโกธิคสไตล์, และสะพานทอดถอนใจหรือ สะพานคาสโนว่า (Bridge of Sighs) ที่เชื่อมต่อกับคุก

ท่านยังสามารถเยี่ยมชมสะพานริอัลโต (Rialto Bridge) ที่เป็นสะพานข้ามคลองใหญ่แกรนด์คาแนลที่มีความเก่าแก่ที่สุดและเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย ในตอนเย็นนี้, นำท่านกลับสู่ฝั่งเวนิสเมสเตร้ (Venice Mestre) เพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อไปสู่เมืองมิลาน (Milan) ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง

วันที่ 5

เริ่มต้นการเดินทางของคุณผ่านพรมแดนระหว่างอิตาลีและสวิตเซอร์แลนด์สู่เมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงในรัฐออบวัลเดิน Obwalden ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ มองเห็นวิวตระการตาของยอดเขาทิตลิส (Titlis) ที่สูงประมาณ 3,020 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งยังเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง

นำท่านไปสู่สถานีเคเบิลคาร์ (Engelberg Titlis Station) ที่เป็นที่ตั้งของสถานีกระเช้าโรแตร์เพื่อนั่งกระเช้าหมุนแห่งแรกของโลก “Revolving Rotair” ที่สามารถหมุนรอบทิศทาง 360 องศา ไปยังยอดเขาทิตลิส (Titlis) ที่เป็นแหล่งเล่นสกีของสวิตเซอร์แลนด์ภาคกลาง สามารถชมทัศนียภาพที่งดงามของเทือกเขาแอลป์ และเพลิดเพลินกับชมถ้ำน้ำแข็ง (Glacier Cave) ที่สวยงาม พร้อมกับการเดินเล่นหิมะที่ยอดเขา

ท่านจะได้รับการบริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารบนยอดทิตลิส ซึ่งจะเสริฟเมนูอาหารพิเศษในบรรยากาศที่งดงาม

จากนั้น, นำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง แหล่งท่องเที่ยวที่ชื่อดังของเมืองนี้คือ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ที่ถือเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการเสียชีวิตของทหารสวิสฯในสงครามปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส นอกจากนี้, สะพานไม้คาเปล (Chapel Bridge) ที่เป็นสะพานไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดของลูเซิร์น สะพานนี้ได้รับการรักษาไว้มากว่า 660 ปีเพื่อเชื่อมเขตเมืองใหม่และเขตเมืองเก่า ในตอนเย็น, เยี่ยมชมทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne) ที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและไล่ตามด้วยการช็อปปิ้งที่ชวาเน่นท์พลัทซ์, เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้ที่นี่

วันที่ 6

เดินทางต่อไปสู่กรุงเบิร์น (Berne), เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์, ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เมืองนี้เป็นที่ตั้งของหลายมรดกโลกและมีสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจ

นำท่านไปชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์โบราณไซท์ล็อค (Clock Tower) ที่มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น เดินทางไปที่บ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Pit) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น และคุณสามารถเดินเล่นที่ถนนคนเดิน (Arcade) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ

เยี่ยมชมบ้านของอัลเบริต ไอน์สไตน์ (Einsteinhaus) ที่เป็นบ้านของนักฟิสิกส์ชื่อดัง อัลเบริต ไอน์สไตน์ ที่ใช้ชีวิตในกรุงเบิร์น

หลังจากนั้น, เดินทางสู่เขตสวิสริเวียร่า ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ, ใกล้กับฝั่งประเทศฝรั่งเศส และเดินทางต่อไปสู่เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง เมืองนี้ถือเป็นไข่มุกริเวียร่าแห่งสวิตเซอร์แลนด์และเป็นศูนย์กลางของการศึกษาวิชาการโรงแรมที่เลื่องชื่อของยุโรป

ที่นี่, คุณสามารถถ่ายรูปกับรูปปั้นของเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ (Freddie Mercury Statue) นักร้องชื่อดังจากวง Queen, และเดินทางสู่ปราสาทชิลยง (Chillon Castle) ที่สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ถ่ายรูปด้านนอกปราสาทที่มีอายุกว่า 800 ปี

ต่อจากนั้น, เดินทางไปที่เมืองเวเว่ย์ (Vevey) ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที เมืองที่มีชื่อเสียงในรัฐโวด์ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่นี่, คุณสามารถได้รับภาพที่สวยงามของทะเลสาบเจนีวา และถ่ายรูปกับรูปปั้นของชาลี แชปปลิ้น (Chaplin Statue) นักร้องชื่อดังจากอังกฤษ

หลังจากนั้น, เดินทางไปที่ปราสาทชิลยง (Chillon Castle) และสวนสาธารณะ เดอ นอง ตูร์ (Jardin Doret) ที่นี่, ท่านสามารถถ่ายรูปทะเลสาบเจนีวาและทิวทัศน์ที่สวยงาม

เดินทางสู่เมืองโลซานน์ (Lausanne) ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เมืองริมทะเลสาบเจนีวาที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ที่นี่, แวะชมพิพิธภัณฑ์โอลิมปิก และสวนโอลิมปิกบนชายฝั่งทะเลสาบ เดินทางผ่านพรมแดนสวิตเซอร์แลนด์–ฝรั่งเศสไปยังเมืองดิจอง (Dijon) ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการผลิตไวน์และมัสตาร์ด

วันที่ 7

เดินทางต่อไปสู่มหานครปารีส (Paris), เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส, ที่มีเสน่ห์และความงดงามที่ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวต้องการเยี่ยมชมมากที่สุด การเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 4.30 ชั่วโมง

ชมความงดงามของพระราชวังแวร์ซายส์ (Versailles Palace) ที่เป็นพระราชวังที่วิจิตรบรรจงที่สุดในยุโรป ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัดส่วนที่สมพระเกียรติที่สุด แต่ละห้องได้สร้างอย่างวิจิตรบรรจงให้ความสอดคล้องกับเหตุการณ์และนามของห้องอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่มีความสนใจในประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม, พระราชวังแวร์ซายส์คือที่เหมาะสมที่สุด จากนั้น, นำท่านไปช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีที่ร้านสินค้าปลอดภาษี (Benlux) ซึ่งมีสินค้าหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกซื้อได้, เช่น เครื่องสำอาง, น้ำหอม, เครื่องหนัง, เสื้อผ้าและอื่นๆ ที่เป็นแบรนด์ดังทั่วโลก

วันที่ 8

การเที่ยวชมมหานครปารีส เมืองหลวงที่สวยงามและโรแมนติกที่สุดในโลก เริ่มต้นจากการสำรวจพระราชวังลูฟวร์ที่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) ซึ่งเป็นที่รวมศิลปะที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดในโลก มีสร้างสรรค์ผลงานศิลปะมากกว่า 40,000 ชิ้น รวมถึง “ภาพวาดโมนาลิซ่า” และรูปปั้นเฟรสมีลิโอ (Venus de Milo) ท่านจะมีโอกาสถ่ายรูปคู่กับพีระมิดแก้วที่เป็นสัญลักษณ์ของลูฟวร์ ทางเข้าพิพิธภัณฑ์

หลังจากนั้น, นำท่านไปถ่ายรูปที่หอไอเฟล (Tour Eiffel) ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ค้นพบเรื่องราวที่น่าทึ่งที่สุดของเมือง ท่านจะผ่านไปที่จัตุรัสค็องคอร์ด (Place de la Concorde) ที่เป็นจุดที่ครบถ้วนทางประวัติศาสตร์และยังเป็นจุดจบของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และ พระนางมารีอังตัวเนต พร้อมกับการถ่ายรูปประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe de l’Étoile) ที่มีสถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่ตั้งอยู่บนชาร์ลเดอโกล ชิดกับถนนช็องเซลิเซ่ (Champs-Élysées) ถนนช้อปปิ้งที่สวยงามและชื่นชม

ล่องเรือบนแม่น้ำแซน บาโต มูช (Bateaux-Mouches) เพื่อชมวิวทิวทัศน์สวยงามของเมืองปารีส และทำความรู้จักกับสถานที่สำคัญๆ อย่าง หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และสะพานอเล็กซานเดอร์ที่สาม จากนั้น, ล่องเรือจะพาท่านเส้นทางที่โรแมนติกที่สุดของเมืองนี้

ท้าทายความตื่นเต้นของการช้อปปิ้งที่ห้างซามาริแตง (La Samaritaine) ที่เน้นความเป็นเอกลักษณ์ในแบรนด์และศิลปะ มีมากถึง 600 แบรนด์ที่ครอบคลุมทุกด้าน

นี้เป็นการเที่ยวที่ไม่เพียงแต่ท่องเที่ยว แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่จะทำให้ท่านเข้าไปสู่โลกของวัฒนธรรมและความโรแมนติกของมหานครปารีสได้อย่างเต็มที่

วันที่ 9 เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

Download โปรแกรมทัวร์

Download โปรแกรมทัวร์