แมนดาริน โอเรียนเต็ล พาเลซ ลูเซิร์น

ในโอกาสที่ได้รับเชิญมารับประทานอาหารค่ำจากโรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล พาเลซ ลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เรามาถึงโรงแรมโดยรถบัสที่ไกด์ท้องถิ่นนำเรามาดรอปไว้ที่ป้ายรถก่อนแยกย้ายกันไป มาถึงโรงแรมในเวลาเริ่มพลบค่ำ เราเดินฝ่าฝนที่ปรอยเป็นละอองฝอยๆ ไปยังอาคารรูปทรงแบบปราสาทราชวังโบราณริมทะเลสาบ อากาศเริ่มหนาวเย็น ทำให้เราเร่งฝีเท้าเดินให้เร็วยิ่งขึ้น

ก้าวเท้าผ่านประตูโรงแรมบรรยากาศเริ่มอุ่นจัดด้วยการต้อนรับอย่างยอดเยี่ยม  เดินผ่านคอริดอร์เข้าสู่ห้องโถงที่ตกแต่งอย่างเรียบหรู ได้หยุดแวะในห้องโถงรับฟังการเกริ่นแนะนำในรายละเอียดของโรงแรมพอสังเขป ซึ่งแม้จะเป็นโรงแรมเก่าแก่มีอายุมาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ยังคงได้รับการปรับปรุงการตกแต่งและบริการให้เป็นที่พอใจและสะดวกสบายแก่ผู้มาใช้บริการตลอดเวลา

เมื่อดินเน่อร์จบอหารจานหลักและก่อนเริ่มรับประทานของหวาน ทางโรงแรมได้ชวนเราเดินย่อยอาหารชมห้องต่างๆ ห้องอาหาร บาร์ ห้องจัดเลี้ยง และห้องพักที่สวยงาม แม้จะไม่สามารถชมวิวภายนอกจากห้องต่างๆ ได้ เพราะเป็นเวลาที่มืดมิดแล้ว ก็ยังทำให้เราได้เพลิดเพลินตื่นตาที่ได้มาสัมผัสแบบตัวเป็นๆ ทั้งที่เคยชมภาพห้องเหล่านี้จากเว็บไซต์มาแล้วก็ตาม ทำให้บรรยากาศของการกลับมานั่งรับประทานของหวานก่อนลาจากเจ้าภาพออกมานั้นเราคุยกันได้อย่างออกรสมากยิ่งขึ้น

เรื่องราวเกี่ยวกับ Mandarin Oriental Palace Luzern

โรงแรมหรูหราสร้างขึ้นในสไตล์ Belle Époque ซึ่งเป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองก่อนที่จะมาสิ้นสุดลงเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 กล่าวกันว่าอารยธรรมยุโรปในยุคนั้นบรรลุอำนาจสูงสุดในการเมืองโลก และยังใช้อิทธิพลสูงสุดต่อผู้คนนอกยุโรปอีกด้วย Belle Époque จึงเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขในชีวิต (joie de vivre) ซึ่งตรงกันข้ามกับความยากลำบากในศตวรรษที่ 20 ของชาวยุโรป

Mandarin Oriental Palace, Luzern ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางเหนือของทะเลสาบบน “National Quai” (“Nationalquai”) ในเมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สร้างขึ้นในนาม Palace Hotel Luzern ระหว่างปี 1904 และ 1906 และปัจจุบันได้รับการกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญระดับชาติอย่างเป็นทางการ (Conservation Grade B)

การก่อตั้งในยุคความรุ่งโรจน์แห่งยุโรป

ในปี ค.ศ. 1903 Franz Josef Bucher ผู้บุกเบิกและผู้ประกอบการด้านโรงแรมที่มากความสามารถ ได้ซื้อที่ดินขนาด 3,285 ตารางเมตรที่ปลายด้านหนึ่งของทะเบสาบ “National Quai” (“Nationalquai”) แห่งลูเซิร์น ในราคา 880,000 ฟรังก์สวิส ราวตารางเมตรละ 270 ฟรังก์สวิส ซึ่งในเวลานั้นแพงอย่างน่าตกใจ  สำหรับสร้างอาคารขนาด 3,000 ตารางเมตร

การก่อสร้างเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1904 ออกแบบอาคารโดยสถาปนิก Heinrich Meili-Wapf  ต่อมา ในวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1906  Palace Hotel Luzern ก็ได้เปิดทำการ รวมค่าก่อสร้างและตกแต่งราวสี่ล้านฟรังก์สวิส ห้องที่หันหน้าไปทางทิศใต้ทั้งหมดมองเห็นวิวทะเลสาบ เช่นเดียวกับห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกทั้งหมด ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว ซึ่งถือว่าเป็นความหรูหราระดับสูงสุดในสมัยนั้น โดยมีห้องน้ำส่วนตัวทั้งหมด 120 ห้องที่ใช้ร่วมกันระหว่างเตียง 350 เตียง ใหญ่กว่าโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีอยู่แล้วของเมืองลูเซิร์นอย่างมาก Palace Hotel Luzern ถือเป็นหนึ่งในโรงแรมที่หรูหราที่สุดในโลกเลยในขณะนั้นทีเดียว

ก้าวผ่านเหตุการณ์สงครามโลก

หลังการปะทุของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โรงแรมต้องปิดตัวลง และกลับมาดำเนินต่อได้หลังจากการลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซาย ทำให้ธุรกิจก็เฟื่องฟูตลอดช่วงทศวรรษที่ 1920 และเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ปะทุขึ้นในปี ค.ศ. 1939  Palace Hotel Luzern เป็นโรงแรมสำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังคงอยู่ในพอร์ตโฟลิโอโรงแรม “Schweizerische Hotelgesellschaft AG” ของ Franz Josef Bucher

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงแรมแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์การแพทย์ และยังใช้เป็นที่เก็บอุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นอีกด้วย หลังจากโครงการปรับปรุงใหม่เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งมีมูลค่า 1.5 ล้านฟรังก์สวิส โรงแรมได้เปิดทำการอีกครั้งในปี ค.ศ. 1946 และกลับคืนสู่ความหรูหราดังเดิม

ตั้งแต่ทศวรรษ 1970 โรงแรมได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงและอัปเกรดอย่างต่อเนื่อง และปรับให้เหมาะกับการดำเนินงานตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูหนาวปี 1993/94 สองชั้นบนสุดสร้างขึ้นใหม่ด้วยราคา 15 ล้านฟรังก์สวิส ทำให้มีห้องพักและห้องสวีทเพิ่มอีก 48 ห้อง

สู่ความเป็น Mandarin Oriental Palace

ในปี 2011 เจ้าของได้ขายอาคาร Hotel Palace Luzern ให้กับ “CS Funds AG ซึ่งเป็นกองทุนรวมการลงทุนของ Credit Suisse ในข้อตกลง “ขายและเช่ากลับ” ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2015 ธนาคารต้องการขายอาคารดังกล่าว โรงแรมปิดปรับปรุงในปี 2019 และเปิดใหม่อีกครั้งในชื่อ Mandarin Oriental Palace, Luzern เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2022

ปัจจุบัน  Mandarin Oriental Palace, Luzern  ตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นที่บนชายฝั่งทะเลสาบที่สามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขาแอลป์ในสวิส ตั้งแต่ปี 1906 โรงแรมแห่งนี้เปิดให้บริการอีกครั้งในชื่อ Mandarin Oriental Palace, Luzern หลังจากการปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ จะนำเข้าสู่ยุคแห่งความสง่างามร่วมสมัยและการบริการที่เป็นตำนาน สถานที่ที่พิเศษที่สุดของลูเซิร์นต้อนรับคุณด้วยห้องพักและห้องสวีทที่ออกแบบอย่างประณีต 136 ห้อง ประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หลากหลาย สปาเพื่อสุขภาพแบบองค์รวม และห้องจัดเลี้ยงที่ตกแต่งอย่างหรูหรา

โรงแรมมีร้านอาหารและบาร์สี่แห่ง MOzern Bar & Brasserie เป็นสถานที่รับประทานอาหารที่เปิดให้บริการอาหารเอเชีย อาหารคลาสสิก ชายามบ่าย และเครื่องดื่มค็อกเทลตลอดทั้งวัน Quai 10 มีวิวทะเลสาบลูเซิร์น ให้บริการอาหารกลางแจ้งและอาหารเมดิเตอร์เรเนียน Colonnade จะนำเสนออาหารฝรั่งเศสโอต์สมัยใหม่ มิซูมิจะเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นในบรรยากาศการรับประทานอาหารแบบหกที่นั่ง ทั้ง Colonnade และ Mizumi จะเปิดให้บริการในไตรมาสแรกของปี 2023

ห้องพักใน Mandarin Oriental Palace

เป็นห้องพักที่ตกแต่งร่วมสมัย แบ่งออกเป็นห้องซูพีเรีย ห้องดีลักซ์ ห้องแมนดาริน ห้องจูเนียร์สวีท ห้องสวีท ซึ่งมีทั้งวิวเมือง วิวทะเลสาบ มีระเบียงหรือเฉลียง ที่พิเศษไปกว่านั้นยังมีห้องเลควิวทาวเวอร์สวีท และห้องพาโนรามิกรูฟท็อปเทอร์เรซสวีทอีกด้วย เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://www.mandarinoriental.com/en/luzern/palace

When to visit: ใน Luzern ฤดูร้อนกำลังสบาย ฤดูหนาวหนาวจัด และมีหยาดน้ำฟ้าตกมาก  โดยทั่วไปอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ -3°C ถึง 25°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -9°C หรือสูงกว่า 30°C เวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว Luzern เพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศอุ่นคือ ตั้งแต่ปลาย มิถุนายน ถึงต้นเดือนกันยายน

Where to visit: 

ตัวเมืองเก่าลูเซิร์น์ สะพานไม้ลูเซิร์น ล่องเวกกิสเป็นเมืองรีสอร์ทขนาดเล็ก

What to do: 

เดินเที่ยวในเมืองลูเซิร์น์ ชมวิวด้วยการล่องเรือ หรือเดินที่ Rigi Kaltbad และเดินไปรอบๆ จัตุรัสหมู่บ้าน เดินตามเส้นทางเดินป่าที่ง่ายโดยมีความลาดเอียงเล็กน้อยไปยังจุดชมวิว Känzeli และชื่นชมแนวเทือกเขาแอลป์ที่น่าประทับใจจากมุมมองที่ต่างออกไป